สภาประสานงาน (ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม)[6]
คณะกรรมการนัดหยุดงานแห่งชาติ (ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม)[7] ขบวนการประชาธิปไตยเบลารุส[8][9][10] อนาธิปไตย:[17] รัฐบาล:พรรคการเมือง:สมาคมสาธารณะ:บาดเจ็บ 1,373 ราย รวมเด็ก[51]
เสียชีวิตมากกว่า 4 ราย[52]
ถูกจับกุมมากกว่า 32,000 ราย[53][54][55]
หายตัว 50 ราย[56]การประท้วงในประเทศเบลารุส พ.ศ. 2563-2564 (อังกฤษ: 2020-2021 Belarusian protests) หรือชื่อเล่น การปฏิวัติรองเท้าแตะ (Slipper Revolution),[61][62] การปฏิวัติล้มล้างแมลงสาบ (Anti-Cockroach Revolution[63]) เป็นระลอกการประท้วงที่ดำเนินไปอยู่เพื่อต่อต้านประธานาธิบดี อะเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก และเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยของเบลารุส การประท้วงได้ดำเนินต่อภายหลังลูกาเชนโกดำรงตำแหน่งต่อเป็นวาระที่หกในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี พ.ศ. 2563[64][65]บล็อกเกอร์และนักธุรกิจชาวเบลารุส เซอร์เกย์ ซีคานอฟสกี ผู้เริ่มเรียกลูกาเชนโกว่าเป็น "แมลงสาบ" ในกลอนสำหรับเด็ก "แมลงสาบผู้ยิ่งใหญ่" (The Mighty Cockroach) และใช้รูปรองเทาแตะบี้แมลงสาบตัวนั้นเป็นสัญลักษณ์ ได้ถูกรัฐบาลจับกุมตัวในปลายเดือนพฤษภาคม 2020 ในฐานความผิดเป็นสายลับต่างชาติ[66] ในเดือนมิถุนายน 2020 ลูกาเชนโกล้มเหลวในการจัดการกับการระบาดของโคโรนาไวรัสและปฏิเสธอันตรายของโรคไวรัสโควิด-19ได้นำไปสู่ความโกรธเคืองของประชาชนและการประท้วง[67] นอกจากนี้ผู้นำฝ่ายค้านจำนวนมากที่ลงสมัครในการเลือกตั้งรอบถัดไปถูกจับกุมด้วยข้อหาต่าง ๆ[66]ในวันที่ 19 มิถุนายน ลูกาเชนโกประกาศว่าเขาได้ "ยับยั้งความพยายามจะรัฐประหาร" โดยการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน วิกตาร์ บาบารีกา[68] ซึ่งถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและสินบน บาบารีกาปฏิเสธว่าข้อหาเหล่านี้เป็นเท็จแต่การจับกุมนั้นเป็นไปเพื่อเหตุผลทางการเมือง ลูกาเชนโกกลัวว่าบาบารีกามีสิทธิ์ที่จะเอาชนะลูกาเชนโกในการเลือกตั้งครั้งถัดไปได้[69]ผู้ประท้วงเผชิญกับการก่อกวนจากเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง โดยข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในวันที่ 1 กันยายน มีรายงานการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายต่อผู้ต้องขังมากกว่า 450 คดี เช่นเดียวกันกับการล่วงละเมิดทางเพศและการขมขืน[70] ในช่วงปลาย พ.ศ. 2563 ศูนย์สิทธิมนุษยชนเวียสนามีคำให้การจากเหยื่อที่ถูกทรมาน 1,000 คดี[71]